เนื่องจากวันที่ 2-5 พ.ค. 58 เป็นวันหยุดยาว 4 วันติดต่อกัน บ้านเราวางแผนว่าจะไปเที่ยวทะเลภาคตะวันออกกัน คุยไปคุยมาก็ตกลงกันว่าจะไปเกาะช้างสัก 2 วัน และไปแวะเที่ยวโฮมสเตย์ที่เมืองจันทร์อีก 1 วัน

เริ่มทริป.. เราออกเดินทางประมาณตี 4 ของเช้าวันที่ 2 พ.ค. 58 (ที่รีบออกแต่เช้ามืดๆๆ เพราะกลัวไปรอขึ้นเรือนาน) ไปถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เวลาประมาณเกือบ 9 โมง ซื้อตั๋วเรียบร้อยก็นำรถมาเข้าแถวรอข้ามไปเกาะช้าง ค่าข้ามเรือคนละ 80/เที่ยว รถคันละ 120/เที่ยว หมาฟรีจ้า ใช้เวลาระหว่างรอและอยู่บนเรือเฟอร์รี่รวมแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง  มาถึงท่าเรืออ่าวสับปะรด ฝั่งเกาะช้าง ประมาณ 10 โมงนิดๆ เราเลือกพักฝั่งที่คนไม่เยอะ เพราะชอบความสงบ และอยากซึมซับบรรยากาศความงดงามของธรรมชาติ ก่อนเข้าที่พักเราแวะไปซื้ออาหารทะเลสดๆ ที่หมู่บ้านชาวประมงสลักเพชรไว้สำหรับย่างกินคืนนี้  จากนั้นก็เข้าไปเช็คอินที่บ้านแม่รีสอร์ทซึ่งเราจะนอนที่นี่ 2 คืน ไปถึงก็มีเจ้าถิ่นมารอต้อนรับอย่างอบอุ่น (ที่นี่อนุญาตให้พาหมามาพักด้วยได้ ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ) ราคาค่าที่พักคืนละ 1,200 บาท เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เก็บข้าวของเสร็จเราก็ออกไปพายเรือแคนนูเล่นกัน จุดหมายของเราคือเกาะทรายขาว ซึ่งเป็นเกาะที่มองด้วยตาแล้วใกล้ที่สุดจากที่พัก แต่พอพายเรือไปจริงๆ ก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะ เห็นเกาะทรายขาวอยู่ลิบๆๆ แล้วววว เย้ๆๆๆ และแล้วก็ถึง “เกาะทรายขาว” ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวแต่คงอนุญาตให้ขึ้นไปเดินเล่นและเล่นน้ำได้ เพราะผู้ดูแลเกาะไม่ได้ห้าม แถมยังหาน้ำมาให้เรากินอีก ใจดีมากๆ ขอบคุณอีกครั้ง บนเกาะนั้นหาดทรายขาว สวย ทรายนุ่มละเอียด สมชื่อเลย แถมยังมีกวางน้อยชื่อ “สิงโต” ซึ่งผู้ดูแลเกาะช่วยเหลือมาได้ตอนตกลงมาจากหน้าผา น่ารักดี เชื่องคนมาก แวะพักเหนื่อยเล่นน้ำและชื่มชมความงามของเกาะจนพอใจแล้วก็ได้เวลาพายเรือกลับบ้านพัก เหนื่อยอีกแล้วซินะ!!  ถึงบ้านพักก็อาบน้ำอาบท่า เตรียมกินมื้อเย็นกัน 3 ตัว วันที่ 3 พฤษภาคม เช้าแล้ววว.. แต่ปลุกคุณผู้ชายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น!! เลยต้องมาเดินเล่นรอบๆ รีสอร์ทกับพี่ไรเฟิล 2 คนพี่เค้าเลยจัดงานใหญ่ให้โดยการวิ่งลงไปเล่นโคลนชายเลน สนุก มันส์ เลอะ และเหนื่อยจนเต็มที่ คุณผู้ชายก็ฟื้นขึ้นมาดู ปาเกียว vs ฟลอยด์ จากนั้นก็กินมื้อเที่ยงกันที่รีสอร์ท และตั้งใจจะออกไปขับรถเล่นรอบเกาะช้าง จึงมีโอกาสได้เห็นว่ารถรอข้ามฝั่งมากมายมหาศาลเพียงไหน จึงวกรถกลับมานั่งตกปลาที่สะพานยาวทันทีเลย ไม่ขับรถเล่นแล้ววววว ไรเฟิลเป็นหมาที่ชอบดูคนตกปลามาก สนใจได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ จะคอยลุ้นว่าจะได้ปลาขึ้นมามั้ยตลอด พี่ที่นั่งตกปลาอยู่ข้างๆ ตกปลาขึ้นมาได้ ก็ไปไล่กระโดดดูปลาเค้าทันที วันที่ 4 พฤษภาคม เรารีบออกเดินทางกันแต่เช้าเพราะกลัวต้องไปติดอยู่ที่ท่าเรือนาน เรามาถึงท่าเรืออ่าวสับปะรด 7 โมงเช้า กว่าจะได้ข้ามไปถึงฝั่งนู้นก็ 10 โมง จุดมุ่งหมายต่อไปคือโฮมสเตย์เมืองจันทร์ ก่อนไปโฮมสเตย์แวะชมความงดงามของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต และแวะเดินชิวๆ ที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อ่าวคุ้งกระเบน (เดินไกลเหมือนกันนะ แต่สวยงามมากเลย) ที่พักคืนนี้ของเราคือขลุงริเวอร์วิว โฮมสเตย์ จันทบุรี บ้านพักสบายๆ โอมล้อมด้วยป่าชายเลน ซึ่งธรรมชาติยังงดงามและอุดมสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว จริงๆ ได้มาพักที่นี้แบบบังเอิ๊ญ บังเอิญ แต่ก็ประทับใจค่ะ หัวละ 1,500 บาท ไม่ถูก ไม่แพง ที่พักพร้อมอาหาร 3 มื้อ มื้อเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเติมได้ไม่อั้น  มาถึงก็ออกไปพายเรือชมทัศนียภาพรอบๆ แล้วก็ได้เวลาอาหารเย็น บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเติมได้ไม่อั้น ไม่อั้นจริง ใครที่ชอบกินอาหารทะเล รับรองต้องชอบแน่ๆ ค่ะ ที่นี่รสชาดอาหารถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ อร่อยค่ะ :) วันที่ 5 พฤษภาคม เริ่มต้นมื้อเช้า ข้าวต้มทะเล+ผัดไทยปู (คืออร่อยมาก) 

อันนี้มื้อกลางวัน

นั่งเรือชมป่าชายเลนรอบๆ โฮมสเตย์  ก่อนกลับบ้านแวะ “สวนลุงทองใบ” ที่ระยอง ผลไม้บุฟเฟ่ต์มี ทุเรียน เงาะ ลองกอง สละ (มังคุดยังไม่ออก) และนั่งรถชมสวน มีไอติมทุเรียนถ้วยน้อยๆ ให้ลองชิม ค่าเข้าหัวละ 200 บาท แก้เลี่ยนด้วยส้มตำผลไม้ (ไม่ฟรีนะคะ ต้องซื้อค่ะ) จบทริป มีความสุข สนุก มันส์ ดำ และอิ่มมาก พูดเลย 

ไว้ไรเฟิลมีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนแล้วจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกนะคับ เพื่อนๆ ที่เคยไปเที่ยวแล้วพาหมาไปด้วยมาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ รอลอกการบ้านอยู่ค่ะ

เข้าไปดูรูปพี่ไรเฟิลได้นะคะที่เพจ “หมาน้อยไรเฟิล” >> https://www.facebook.com/riflelabrador