ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ อลังการงานศิลป์ ประติมากรรมสีนิลของคนตะวันออก พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) จ.สมุทรปราการ
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ อลังการงานศิลป์ ประติมากรรมสีนิลของคนตะวันออก

    ใครที่ผ่านมาตามเส้นทางถนนวงแหวนอุตสาหกรรม หรือสุขุมวิทสายเก่าเพื่อไปยังเมืองปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ คงจะต้องผ่านรูปช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียรขนาดใหญ่แน่นอน และวันนี้จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของเราก็คือ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” นั่นเอง จอดรถแล้วก็ซื้อตรงไปซื้อบัตรผ่านประตูที่บริเวณด้านหน้ากันเลยครับ

    “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” สร้างขึ้นจากความคิดและจิตนาการของ“คุณเล็ก วิริยะพันธุ์” ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่คุณเล็กเก็บสะสมไว้ บนพื้นที่กว่า 12 ไร่  พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแบ่งออกเป็น พิพิธภัณฑ์ภายในช้างเอราวัณ และป่าหิมพานต์ เราเลือกที่จะเริ่มต้นกันด้วยการเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ภายในตัวช้างกันก่อน ซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน 3 ชั้น แบ่งตามความเชื่อในหลักไตรภูมิ เริ่มจากชั้นล่างสุดเรียกว่า “สุวรรณภูมิ”ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุ และเครื่องถ้วยชามสังคโลก รวมถึงของเก่าต่างๆ ที่หาชมได้ยากมาก ส่วนกลางห้องหลังประตูทางเข้ามีรูปหล่อจำลองมนุษย์นาคอันสวยงามที่สร้างขึ้นตามจินตนาการของคุณเล็ก

    ถัดจากเดินชมที่ชั้นสุวรรณภูมิแล้วเราเดินมาชมกันต่อที่ชั้น 2 ในส่วนนี้เรียกว่า “โลก” เพียงแค่ก้าวแรกที่เข้ามาถึง เราก็ต้องตะลึงไปกับความวิจิตรงดงามของศิลปะการตกแต่งอันประณีตงดงาม เอกลักษณ์ของชั้นนี้ต้องยกให้กับลวดลายปูนปั้นประดับด้วยเครื่องเบญจรงค์หลากสี จากฝีมือของช่างชาวเพชรบุรี ตรงกลางประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมเก่าแก่ อายุกว่า 1,300 ปี โอบล้อมด้วยบันไดเงินและบันไดนาค เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปยังด้านบน จะเห็นเพดานประดับกระจกสี (Stain Glass) ออกแบบเป็นลวดลายแผนที่โลกจากฝีมือช่างเยอรมัน ซึ่งแนวคิดของศิลปะการตกแต่งนี้เปรียบเพดานเหมือนกับหลังคาโลก โดยมีศาสนาเป็นเครื่องค้ำจุนโลกไว้ สังเกตุได้จากแผ่นดีบุกดุนลายที่ประดับอยู่บนเสาทั้ง 4 ต้น แต่ละต้นจะเป็นเรื่องราวของศาสนาพุทธ คริสต์ ฮินดู และพุทธนิกายมหายาน เมื่อเดินขึ้นมาจนสุดบันไดเงินก็จะเป็นทางขึ้นไปสู่ชั้นบนสุด

    การที่จะขึ้นไปยังชั้นที่ 3 หรือ “จักรวาล” นั้น มีเส้นทางให้เลือกด้วยกัน 2 ทาง คือ การเดินขึ้นบันไดจำนวน 66 ขั้น ซึ่งเป็นส่วนของขาหลังด้านซ้ายของช้าง หรือจะโดยสารลิฟต์ที่ส่วนของขาหลังด้านขวาแทนก็ได้ แต่ถ้าหากเลือกที่จะเดินขึ้นบันได เราก็จะได้ชมภาพวาดฝาผนังลวดลายของเหล่านางฟ้า นางสวรรค์ที่มาคอยต้อนรับไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว เราจะได้สักการะพระพุทธรูปปางลีลา และพระพุทธสิหิงค์ พร้อมกับได้ชมพระพุทธรูปโบราณในสมัยต่างๆ ที่หาชมได้ยาก ในบรรยากาศที่จำลองเรื่องราวเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลไว้บนจิตรกรรมสีสันสดใสรอบตัว

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22, 2556
    • โพสต์-3
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    เมื่อชมจนทั่วพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 ชั้นแล้วก็อย่าลืมออกมาเดินชมสวนป่าหิมพานต์ที่ด้านนอกด้วย ภายในสวนจะมีรูปปูนปั้นของสัตว์ในวรรณคดีมากมาย รวมไปถึงห้องนิทรรศการที่จัดแสดงชีวประวัติของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ไว้อย่างละเอียด ส่วนใครที่มีความเชื่อและความศรัทธาคงไม่ลืมที่จะแวะสักการะบูชาช้างสามเศียรเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ถึงแม้แต่เดิมที่วัตถุประสงค์การสร้างประติมากรรมช้างข้างใหญ่นี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ด้วยเสียงร่ำลือต่อๆ กันมาว่าเคยมีคนมาขอพรแล้วสมปรารถนาจึงเกิดแรงศรัทธาจากประชาชนที่มักจะแวะเวียนมาสักการะอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้จัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้เรียบร้อย ผู้ที่เข้าชมสามารถนำบัตรผ่านประตูไปแลกรับธูปเทียน และดอกบัวเพื่อนำไปลอยในสระน้ำรอบๆ ตัวช้างได้เลย เพราะการลอยดอกบัวนั้นมีความเชื่อกันว่า เป็นการนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีที่อยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  หลังจากที่เรานำดอกบัวไปลอยน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันว่าเราได้เที่ยวชมและทำกิจกรรมครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้ว สุดสัปดาห์นี้ ถ้าใครว่างและยังไม่ได้วางแผนไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ ก็ลองแวะมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณกันดู นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้ว เรายังได้ความรู้หลายๆ ด้าน และได้ชมศิลปะเชิงช่าง รวมถึงวัตถุโบราณที่หาชมได้ยากอีกด้วย

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22, 2556
    • โพสต์-5
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    Note

    - ถ้าต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ 0 2371 3135-6

    - การเที่ยวชมภายในพิพิธภัณฑ์ จะมีมัคคุเทศน์นำชมเป็นรอบๆ ทุกครึ่งชั่วโมง โดยจะใช้เวลาในการนำชมประมาณ 40 นาที

    - สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สามารถมารับดอกไม้ ธูป เทียน และดอกบัวสำหรับลอยน้ำ ได้ในที่ที่จัดเตรียมไว้ได้ฟรี

    - ที่จอดรถของพิพิธภัณฑ์ จะอยู่บริเวณใต้สะพานวงแหวนรอบนอก (ทิศใต้) และจะมีรถรับ-ส่งระหว่างที่จอดรถและพิพิธภัณฑ์ฟรี

    • โพสต์-6
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22, 2556

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ นับเป็นแหล่งรวมศิลปะงานช่างฝีมือไว้มากมายหลายแขนง ทั้งงานปั้น งานจิตรกรรม งานแกะสลัก งานดุนลาย รวมถึงวัตถุโบราณ และพระพุทธรูปโบราณที่มีค่าควรเมืองยิ่ง ความยิ่งใหญ่อลังการของประติมากรรมรูปช้างสามเศียรอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็อดทึ่งไม่ได้
    • จุดด้อย:
    • สำหรับผู้ที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา และไม่ค่อยจะคุ้นกับเส้นทาง อาจจะขับรถเลยทางเข้าที่จอดรถของพิพิธภัณฑ์ได้ง่ายๆ เนื่องจากต้องเลี้ยวไปทางถนนวงแหวนรอบนอก (ทิศใต้) ก่อนถึงตัวพิพิธภัณฑ์
    • ข้อสรุป:
    • สำหรับพิพิธภัณฑ์ช้างเอรวัณแห่งนี้ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวเมืองปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินจากการเดินชมแล้ว ยังมีความรู้ทางประวัติศาสตร์ ความรู้ของงานศิลปะในเชิงช่างอีกมากมาย ซึ่งศิลปะเหล่านี้ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้สือบทอดไปสู่ชนรุ่นหลังต่อไป
    คะแนน
    • โพสต์-7
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 99/9 หมู่1 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270

    GPS : 13.628624, 100.58901

    เบอร์ติดต่อ : 0 2380 0305, 0 2371 3135 แฟกซ์ : 0 2380 0304

    E-mail : erawan_museum@yahoo.com

    Website : www.erawan-museum.com

    เวลาทำการ : 8.00-17.00 น.

    ค่าธรรมเนียม :

    - ชาวไทย ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก (อายุ 6-15 ปี) 75 บาท ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) 100 บาท คนสมุทรปราการ 100 บาท

    - ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก (อายุ 6-15 ปี) 150 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

    ไฮไลท์ : ตัวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณที่มีความสูงประมาณตึก 14 ชั้น ซึ่งภายในมีการประดับตกแต่งไว้อย่างวิจิตรสวยงาม และยังมีพระพุทธรูปโบราณ และของเก่าหายากจัดแสดงไว้ให้ชมมากมาย

    กิจกรรม : เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ สักการะช้างสามเศียรและพระพิฆเนศ

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่ปากน้ำหลังจากที่ขับรถผ่านทางแยกเทพารักษ์ให้สังเกตทางด้านซ้ายมือพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณจะอยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนจะถึงทางแยกปากน้ำ

    หรือถ้ามาจากพระราม 3 ให้ใช้เส้นทางถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ไปยังถนนปู่เจ้าสมิงพราย พอเลี้ยวขวาเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพรายแล้ว ให้ตรงไปจนสุดถนนให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ตรงไปตามทางจะเห็นพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณอยู่ทางด้านซ้ายมือ

    ** ก่อนถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ ให้ชิดซ้ายไปทางถนนวงแหวนรอบนอก (ทิศใต้) แล้วกลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าไปยังที่จอดรถของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

    รถประจำทางที่ผ่าน พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ได้แก่ สาย 25, 102, 142, 365, 507, 511 และสาย 536


    • โพสต์-9
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22, 2556
    • โพสต์-10
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 22 , 2556

    แกลลอรี่รูปภาพ

  1. โหลดเพิ่ม