มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา (มก.ศรช.) ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ป่าที่เราเดินก็อยู่บริเวณในมหาวิทยาลัย เป็นป่าที่อยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยมีชื่อว่า “เขาน้ำซับ” ด้านหน้าของมหาวิทยาลัยติดถนนสุขุมวิท ถ้าขับรถผ่านมาจะเห็นรั้วสีรุ้ง ถ้าเห็นแสดงว่าถึง มก.ศรช. แล้ว 

เขาน้ำซับ อยู่ด้านหลังของมหาวิทยาลัย 

ข้อควรปฏิบัติก่อนจะขึ้นเขาน้ำซับ เพื่อความปลอดภัยในการเดินป่า

1. ควรขึ้นเขาก่อนเวลา 17.00 น. เพื่อให้เวลาลงจากเขาน้ำซับได้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก เวลาที่ใช้ในการเดินป่าประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน 

2. เดินตามเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ ทางเดินป่าเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน อย่าเดินนอกเส้นทาง เส้นทางไหนที่ต้องเดินจะมีเชือกฟางสีแดงผูกที่กิ่งไม้แสดงเป็นระยะ ที่บอกให้เดินตามเส้นทางเนื่องจากที่นี่เป็นป่า มีสัตว์ป่าอยู่ ที่เราเคยเห็นและพบเจอมาสิบกว่าปีที่ทำงานอยู่ที่นี่ที่เด็ดๆ ก็ “น้องงูกะปะ” ซึ่งเป็นงูที่มีพิษรุนแรงมาก เพราะฉะนั้นอย่าก๋ากั่นเดินในทางที่ไม่ควรเดิน

3. ไม่สูบบุหรี่ หรือทิ้งขยะบนเขา ที่นี่เคยมีไฟป่าค่ะ เกิดมาหลายครั้งแล้ว ไม่อยากให้เกิดอีก สงสารต้นไม้ สงสารตัวเองด้วย เพราะเราอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัย ที่พักก็อยู่ติดเขา ส่วนขยะ ก็เป็นมารยาทอันควร สำหรับคนที่มีอารยะ ไม่ว่าไปไหนๆ ก็ไม่ควรทิ้งขยะในที่ที่ไม่ควรทิ้งค่ะ เราเคยขึ้นไปเก็บขยะบนเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากไปเก็บเพิ่มอีก 

4. ใส่เสื้อผ้า รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เหมาะสมในการเดินเขา รองเท้าแตะคงไม่เหมาะเพราะทางเดินขึ้นและลงเขาในหลายๆ ช่วงค่อนข้างชัน

     เมื่อพร้อมแล้วก็เริ่มเลยละกัน ทางขึ้นเขาอยู่ตรงแยกสะพานดาว หรือเนิน 45 ก็แล้วแต่จะเรียกกัน เราก็เรียกตามนิสิต ตรงแยกนี้จะมีน้องหมาเกิร์ลแก๊งค์อยู่ 3 ตัว สีน้ำตาลทั้งหมด พวกนางชอบเดินตามขึ้นไปเป็นเพื่อนด้วย เราเดินขึ้นเขาน้ำซับทีไรก็เอาน้ำไปเผื่อพวกนาง พอถึงยอดเขาเกิร์ลแก๊งค์จะหอบแฮ่กๆ เราก็ป้อนน้ำให้พวกนางกินกัน 

เกิร์ลแก๊งค์ หลังเป็นกระดานเลย บันไดทางขึ้นเขา มีอยู่ไม่กี่ขั้นค่ะ

     ทางขึ้นเขาจะมีบันไดปูนอยู่ไม่กี่ขึ้น ตรงทางขึ้นมีศาลเก่าของพ่อปู่ตั้งอยู่ ก่อนขึ้นก็ทำความเคารพฝากเนื้อฝากตัวเพื่อความสบายใจในการเดิน เส้นทางเดินป่าที่เขาน้ำซับนี้ ทางคณะวิทยาศาสตร์ศรีราชา ได้ทำเป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้ ถ้าสังเกตต้นไม้บางต้นจะโดนตอกหมุดทำหมายเลข อย่าซนไปดึงออกเล่นกัน 

ศาลเก่าพ่อปู่ ศาลใหม่ของพ่อปู่สร้างอยู่เชิงเขาอีกที่ค่ะ

สี่ขาเดินลิ่วๆ เหลียวมองดูเราเป็นระยะ

     ทางเดินที่สำรวจไว้เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติจะมีเชือกฟางสีแดงผูกไว้ตามกิ่งไม้ ก็เดินไปตามนั้นค่ะ เส้นทางที่เดินก็เป็นทางเดินชัดเจน อย่าเดินนอกเส้นทางตามที่เน้นย้ำในข้อควรปฏิบัติในข้อ 2 (ข้างต้น) ถ้าเราเดินตามทางที่ได้สำรวจไว้เราจะเดินป่าได้อย่างปลอดภัย (ทางที่เดินบ่อยๆ โล่งๆ น้องงูเขาไม่มายุ่งค่ะ) 

ทางเดินขึ้นเขาเป็นทางชัดเจน ให้เดินตามนั้นเลย ใบไม้ร่วงเยอะระวังลื่นค่ะ

ช่วงแรกนี้น้องหมายังเดินตามทางอยู่

     น้องหมาเกิร์ลแก๊งค์ที่เดินเป็นเพื่อนเรา พวกนางมีทางลัดของนาง ซึ่งเดินตามทางบ้าง ไม่เดินตามทางบ้าง แต่สุดท้ายพวกนางจะหาเราเจอ อย่าได้เดินตามน้องหมาเกิร์ลแก๊งค์ ให้เดินตามทางที่เราบอก เดินไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ พอถึงเขายอดแรกทางก็จะชันน้อยลง จะมีหินใหญ่ๆ อยู่ก้อนหนึ่งตรงจุดนั้นสามารถมองเห็นวิวของมหาวิทยาลัยได้เกือบทั้งหมด และก็ยังเห็นโรงกลั่นน้ำมันของไทยออยล์ด้วย ถึงตรงนี้ถ้าอยากลงก็ลงได้เลยมีทางลงเลยหินก้อนนั้นไปนิดหน่อยทางลงค่อนข้างชัน จะบอกว่าเราขึ้นทางหนึงลงก็อีกทางหนึง ส่วนเราเมื่อถึงยอดเขาแรกก็พักชมวิวสักพัก ระหว่างทางมีผักหวานเยอะมาก ชาวบ้านชอบขึ้นมาเก็บกัน โดยเฉพาะช่วงนี้ฝนตกไปสองสามครั้งในหน้าร้อนผักหวานออกยอดสวยเชียว แต่เราก็ไม่เก็บมา เอาไว้ให้ชาวบ้านจะดีกว่า

เดินไต่เขาขึ้นมาสักพัก ทางเริ่มไม่ชันแล้ว ป่าเป็นป่าโปร่งๆ

ทางเดินชัดเจน เดินตามทางไปเลย

เชือกฟางสีแดง มีผูกตามกิ่งไม้เป็นระยะ เดินตามเชือกฟางแดงได้เลย

ผักหวาน

ใกล้จะถึงยอดเขาแรก

ถึงแล้ว ยอดเขาแรก ถ้าขึ้นก้อนหินมองลงไปจะเห็น ม.เกษตรศาสตร์ กับโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์

วิวไกลๆ เมื่อขึ้นยืนบนก้อนหิน

ยืนดีดีระวังลื่น

     เดินต่อไปยอดเขาที่สองมีต้องปืนป่ายกันบ้าง ยอดนี้จะมีหญ้าขึ้น แต่เป็นหญ้าที่สูงกว่าเรา ถ้าเดินสังเกตดีดีจะเห็นร่องรอยไหม้ของต้นไม้ ซึ่งมาจากไฟป่าเมื่อสองสามปีที่แล้ว หญ้าบนยอดนี้เป็นหญ้าสูงแห้งๆ ดังนั้นเราเลยให้ระมัดระวังเรื่องไฟกันสักหน่อย บนยอดนี้จะเห็นวิวด้านหลังเขาน้ำซับ ซึ่งอยู่คนละด้านกับของมหาวิทยาลัย จะเห็นเป็นหมู่บ้านหลายๆ หลัง อากาศบนยอดเขาลมพัดเย็นสบายดี บนยอดนี้จะมีต้นประดู่สวยๆ อยู่ต้นหนึง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการมาถึงยอดนี้ได้ เดินเลยต้นไม้ไปอีกหน่อย จะมีหมุดKU ตอกไว้เป็นสัญลักษณ์ 

เดินต่อไป

หินบนสันเขา

บนสันเขาเป็นทุ่งหญ้า แต่หญ้าสูงท่วมหัว เดินต่อไป

ถึงแล้ว วิวหลังเขาอีกด้าน ส่วนใหญ่เป็นบ้านคน

ต้นไม้สวยๆ บนยอดเขา

หมุด มีอักษร KU

หมุด มีอักษร KU เป็นหมุดที่นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่เรียนวิชา Survey Camp รุ่น E45 = KU49 เป็นคนทำ
ความหมาย IR-CE คือ Irregation Engineer
KU501 หมายถึง หมุดตัวที่ 501

เดินกลับ หญ้าตรงสันเขาสูงท่วมหัว

ได้เวลาเดินกลับ ก่อนตะวันจะลับฟ้า

     เรานั่งพักกับน้องหมาเกิร์ลแก๊งค์ให้น้ำพวกนางกินเอาใจพวกนางสักหน่อย ก็เดินกลับ ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวจะกลับไม่ทันพระอาทิตย์ตก เราเดินกลับมาทางเดิม ถึงตรงยอดเขายอดแรก แล้วก็ลงตรงทางตัวอักษร ม.เกษตร ทางลงค่อนข้างชัน มีเชือกให้พยุงตัวได้บ้างบ้างช่วง ตอนลงค่อยๆ เดินลง ตรงช่วงนี้ น้องหมาเกิร์ลแก๊งค์ จะให้เราเดินนำไปก่อน พวกนางคอยมองเราประมาณว่า พวกมนุษย์ เดินให้เร็วหน่อยได้ไหม พวกนางมีสี่ขา นางขึ้นมาบ่อย กล้ามเนื้อแน่นเป็นมัดๆ อาหารการกินด้านล่างมีคนเอามาให้กินอย่างอุดมสมบูรณ์ รวมถึงผ่านการคุมกำเนิดมาแล้ว พวกนางเลยดูสมบูรณ์แข็งแรงกว่าหมาแก๊งค์อื่นที่อยู่ในมหาวิทยาลัยมากๆ  ทางลงด้านนี้เราจะพบหินสีขาวใหญ่ๆ มีความพิเศษคือเป็นเสาสองเสา แล้วก็มีหินด้านบนเทินอยู่อีกอัน เลยเหมือนเป็นประตูทางเข้า เราเลยเรียกว่า “หินประตู”

เตรียมตัวลง ทางค่อนข้างชันกว่าตอนขึ้น

เชือกนำทาง

หินประตู

มีเชือกพอให้พยุงตัวนิดหน่อย

เดินไปก่อนสิ หยุดทำไมเนี่ย

พักตากลมเย็นๆ สักหน่อย

บริเวณหินตัวอักษร ม.เกษตร

มีพวกนางเดินเป็นเพื่อน

เชือกพยุงตัวตอนขาลง พื้นค่อนข้างลื่น

ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกัน เด๊่ยวเอาขนมมาฝาก

     เราขึ้นเขาประมาณห้าโมงเย็น ลงมาจากเขามาถึงด้านล่างประมาณหกโมงครึ่ง เราเดินไปถ่ายรูปไปเลยใช้เวลานานหน่อย โดยปกติที่เคยเดินตามปกติใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นถ้าจะขึ้นเขาน้ำซับก็คำนวณเวลากันให้ดีดีก่อนขึ้นค่ะ

     เนื่องจากวันที่เราขึ้นเขาเป็นวันอังคาร ซึ่งที่ มก.ศรช. จะมีตลาดนัด เราลงจากเขาก็ไปต่อที่ตลาดนัดเลย ไปหาของกิน ใช้พลังงานไปเยอะแล้ว กินสักหน่อย ตลาดนัดนี้เปิดทุกวันอังคารตอนเย็นๆ มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ของกิน และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นตลาดนัดที่พิเศษหน่อย จะเปิดเฉพาะช่วงที่เปิดเทอม ถ้าใช้เส้นทางสุขุมวิท ก็จะเห็นได้ว่ามีตลาดนัดอยู่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย แวะซื้อของกันได้ของกินของใช้ราคาไม่แพง

    เราเดินขึ้นเขาน้ำซับหลังมหาวิทยาลัยบ่อยๆ เพื่อออกกำลังกาย เวลาเดินป่าก็มีความสุขด้วย ข้างบนเขาอากาศดี และเหมือนเดิมทุกครั้งที่เราไปเยือนที่ใด เราให้ความเคารพในสถานที่นั้นๆ เราไม่เอาของของเราไปไว้บนเขา และไม่เอาของบนเขาลงมากับเรา นอกจากภาพถ่ายและรอยเท้าเท่านั้นค่ะ จบทริปแล้ววันนี้ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ