เริ่มเดินทาง กิจกรรมเราเยอะมาก เลยออกเดินทางกันตั้งแต่ไก่โห่ หรือจะยังไม่โหไก่น่าจะยังหลับอยู่ ตี3.30รับทีมงามมุ่งหน้าเส้นทางมอเตอร์เวย์ชลบุรีเลี้ยวซ้ายออกบ้านบึง ทำความเร็วเรื่อยๆมีทำถนนบ้าง แวะกินข้าว7-11 ตัวเมืองตราดล่างหน้าแปรงฟันที่ปั้ม มาถึงท่าเรือเกาะช้างเฟอรี่ ประมาณ 8 โมง เรือพึ่งออกไปพอดีเลย เลยต้องรอคิวเรือรอบต่อไป เรือออกทุกครึ่งชั่วโมงครับ นั้งเล่นแปบๆ เรือลำใหม่มาพอดี
พาหานะคู่หูวีออสคันเดิมเติมแก้ส
ขึ้นมานั้งรับลมเย็นๆบนเรือถ่ายรูปไปพลางๆ
แสงแดดอุ่นๆยามเช้ากระทบสะท้อนผิวน้ำ
ไม่นานนักราวๆ30-45 นาที เราก็มาถึงเกาะช้าง
เรือจากเกาะช้างกลับไปท่าเรือแล้ว
อย่างที่หลายคนทราบแล้วและอีกหลายคนยังไม่ทราบ เมื่อถึงเกาะช้างแล้วเราต้องเลือกว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ซึ่งส่วนใหญ่จะเลี้ยวขวาเข้าหาแหล่งที่เที่ยวที่พักมากมายความเจริญเพียบ ซึ่งผมก็นอนฝั่งขวานั้นแหละ แต่จะแว้บไปเที่ยวฝั่งซ้ายก่อน ฝั่งซ้ายก็มีที่เที่ยวสวยๆเหมือนกัน
ฝั่งซ้ายนี้จะคนละฟิวกับทางขวา ผมจำได้ว่าตลาดทางไม่เจอ 7-11 เลยนะครับหรืออาจจะมี ผ่านเส้นทางเงียบสงบรถน้อยมีบ้านคนเป็นช่วงๆที่พักก็มีเรื่อยๆนะ วิ่งมาจนสุดทางบ้านสลักเพชร ที่นี้ไม่ได้วิ่งรอบเกาะได้แบบที่อื่นได้นะครับ สุดทางคือบ้านสลักเพชรจะไปฝั่งนู้นก็ต้องวิ่งกลับทางเดิมผ่านท่าเรือ
เอาละพูดถึงที่แรกจะไปวันนี้นั้นก็คือ ป่าชายเลนบ้านนาใน อยู่ในบ้านสลักเพชรนี้แหละ ผมหาป้ายทางเข้าไปไม่เจอนะขับจนเลย เลยไปถามชาวบ้านเขา สรุปทางเข้าอยู่ตรงวัดสลักเพชรครับ เลี้ยวซ้ายตรง โบส์ถเก่า เข้ามาประมาณ โลกว่าๆ ก็จะเจอทางแบบนี้
จากสภาพรถเก๋งโหลดเตี้ยของผมเห็นแล้วก็ผวานิดหน่อยเพราะทางมันแคบกลัวจะไปไมไ่ด้เลยต้องเดินไปเช็คก่อน
เดินไปดูสรุปเป็นหลุมบ่อปะมาณ 500 เมตร ค่อยยังชั่ว เช็คแล้วพอมาได้ ค่อยๆคลานมา แต่ถ้ารถเก๋งทั่วไปไม่โหลดมาได้เลยครับไม่มีปัญหา ใครรถเตี้ยก็เพลียหน่อย 555
ป่าชายเลนบ้านนาในเป็นสะพานไม้เดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร อย่าลืมนะครับใครมาแล้วแนะนำให้เดินให้สุด ผมขนาดถ่ายไว้แล้วยังลืมเลย นึกว่าสุดทางไม่มีอะไรออกมาแล้วมาหารูปดูเอ้าถ้าเดินสุดทางจะเห็นทะเลด้วย แต่ไม่เป็นไรเดี่ยวที่ต่อไปจะพาไปดูว่าปลายทางเป็นยังไง
เดินเข้ามาช่วงแรก เป็นป่าโกงกางสูง คล้ายๆทุ่งโปรงทองที่ระยองเลย
เดินไปถ่ายไป
อากาศ9โมงกว่าๆยังไม่ร้อนเท่าไหร่
เริ่มมองเห็นโลกกว้าง
พอพ้นโค้งนี้แล้วก็ ว้าวว
ต้นป่าโกงกางสลับซับซ้อน จะเรียกที่เหลืองหรือเขียวดี นั้นแหละ สีสันสวยงามสดใส มองไปรอบๆแล้วมันชื่นใจ
อากาศดีนอนเล่นสักแปบบบ แปบเดียวก็แสบหลังแล้ว555
น่าเสียดายครับผมไม่ได้เดินไปจนสุดก็ลืมหารูปดูว่ามีอะไรหรือป่าว เลยเดินกันแค่นี้แล้วกลับ
ก่อนออกขอท่าประจำคู่รักตะลอนทัวร์หน่อย อิอิ
รหะหว่างทางขาออก
ลืมบอกที่นี้เข้าชมฟรีนะครับเดินเข้าได้เลย
จากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้นทราบว่ายังมีที่ควรมาฝั่งนี้เป็นสะพานหลวงครับ น่าจะเป็นท่าเรือสำหรับคนที่พักฝั่งนี้แล้วจะไปดำน้ำ อยู่ไม่ไกลวิ่งจากสลักเพชรมาอีก 3 กิโลก็ถึง
ตรงนนี้น่าจะเป็นท่าเรือเฉพาะของใครหรือป่าว เข้าไปไม่ได้ครับ มีโซ่กั้นเลยถ่ายจากข้างนอก
นี้สะพานหลวง อยู่ใกล้ๆกับที่จอดเรือเมื่อกี้อันนี้มีที่จอดรถเดินไปได้ ไกลลลมากก
ตอนนี้แดดแรงแล้วละ
ถึงแล้วประภาคารกลางน้ำ ไม่รู้ขึ้นได้ไหมแต่เห็นมีใครเลยไม่กล้าเข้าไป
ถ่ายรูปรอบๆ
ฝังนู้นจะเป็นป่าชายเลนที่เราเดินเมื่อกี้แหละถ้าใครเดินจนสุดก็จะมาพบเห็นวิวที่เราอยู่กันตรงนี้เลย
ข้อดีของการมาทะเล ส่วนใหญ่จะได้เห็นภูเขาสวยๆไปด้วย แบบนี้แล
เดินกลับๆไปต่อๆ ที่จริงฝั่งนนี้มีน้ำตก ด้วยนะครับแต่สอบถามชาวบ้านว่าน้ำน้อยไม่ค่อยมีช่วงนนี้เลยไม่ได้ไป
ออกจากสลักเพชร หิวกันน่าดู อาหาร 7-11 เมื่อเช้าหมดพลัง จัดข้าวร้านอาหารแถวนั้น ลืมถ่ายรูปเสียได้ รสชาติดีไม่แพงด้วยครับ 40 บาท อิ่มกันไปมื้อแรกบนเกาะช้าง
สถานีต่อไปน้ำตกคลองพลู ค่าเข้าคนละ 40 บาท
ถ่ายป้ายสักนิด
เส้นทางเดินไปน้ำตกคลองพลูเดินง่ายไม่ลำบากอะไรครับ เส้นทางธรรมชาติมีปีนป่ายบ้างนิดหน่อย
เดินมาไม่นานก็ถึงตัวน้ำตกประมาณ 15 นาทีได้ เรียกเหงือได้แบบซิบๆ เตรียมน้ำมาสักหน่อยก็ดี เดินตอนเที่ยงร้อนใช้ได้
น้ำตกคลองพลูสวยสูงดีครับ น้ำเย็นเล่นได้ แต่มีฝรั่งเล่นกัน ผมไม่ได้เล่นเดินไปถ่ายรูปอย่างเดียว
ฝรั่งเยอะมาก ไม่มีมะม่วงแตงโมมั้งเลยย แฮร่
ออกจากน้ำตก กิจกรรมเราแน่นยันเย็น กิจกรรมต่อไปมาถึงเกาะช้างก็ต้องขี่ช้างสี้ แต่ทีมงานเราอีก2คนกลัวช้างไม่ยอมขี่ด้วย เลยไปส่งที่พัก Elephant Bay Resort หาดใบลาน ก่อนแล้วผมกับฟางค่อยกลับมาขี่ช้างกัน ระยะทางบนเกาะช้างไม่ได้ห่างไกลกันมากครับแต่ละที่ แต่เป็นเส้นทางที่มีความชันอันตรายอยู่เหมือนกันคนขับรถต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่งทีมงานแล้วที่พักเดี่ยวค่อยว่ากันที่เดียว กลับมาขี่ช้างก่อน นัดพี่ช้างไว้รอบ 2 โมง
มาถึงทางเข้าปางช้างชุติมันทัวร์ เอาอีกแล้ว ทางเข้าประมาณ500 เมตร เข้ามาได้ 300 เมตรล้อก็เละประมาณนี้
เจอเนินต้องลงมาดูลายก่อน แต่ใจสู้ครับ ใต้ท้อนี้ครูดมาหมด ท้องลายท่อบุบคานกระแทกประจำ ชินแล้วลุยไปให้สุด
ก็ปัดเป๋ๆเลื่อยคลานสักพักก็มาถึง รถทั่วไปไม่โหลดมาได้ไม่ยากครับ ทางไม่ได้โหดอะไรเว้นแต่รถเตี้ยอย่างผม
เราไปขี่ช้างกันแบบ 2 ชั่วโมง 1000 บาทต่อคนนะครับ ไม่รู้ราคาอย่างไรแน่โทรมาสอบถามเขาบอกราคาในเว็บไม่อัพเดท 1 ชม.900 2ชม.1500 แต่เขาลดให้เหลือ 2ชม1000 ใครจะมาลองเช็คราคากันเองก่อนนะครับ แต่ผมจะขี่ 2 ชม อยู่แล้วเลยจัดไป คนละ 1000 บาท ข้อแตกต่าง 1 ชม จะพาเดินแค่รอบๆวนๆ ครับ แต่ 2 ชม.จะพาเราเดินไปถึงน้ำตก พาช้างลงน้ำเล่นน้ำกับเราครับ
เส้นทางธรมชาติสวยงามครับพึ่งเคยนั่งช้างครั้งแรก ตื่นเต้นดีครับ
เจอควานช้างอีกคนอาสาถ่ายรูปให้ครับ ช้างที่ผมขี่คือเจ้า poppy เพศเมียวัย36 ปี ขอบอกว่าดื้อสนมากๆ
เดินเข้าป่าเขาดงไม้ตลอดไม่เดินตามทางปกติ55
บางทีก็เสียวจับแน่นเกร็งซะ
เดินมาประมาณเกือบ ชม ก็มาถึงน้ำตก
ถอดที่นั้งออกเตรีนมลงเล่นน้ำ แต่ผมไม่เล่นนะกลัวว่ายน้ำไม่เป็น555 ส่งแฟนลงไปเดี่ยวเค้าถ่ายรูปให้ไปเลยๆๆ
น้ำลึกเลยดีนะผมไม่ลงไป 555 เกือบมิดน้องช้างนนี้ เกือบ 2 เมตรได้มั้ง
ควานช้างบอก ดูแลลูกค้าดีๆนะป็อปปี้
แล้วก็ตู้มม
เฮ้ยยยพี่ ไปไหนนนน แฟนผมอุทานด้วยความตกใจ 5555
พี่ไปยืนให้กำลังในริมๆ แฟนเริ่มทำใจได้ 555
แล้วน้องช้างก็เล่นอย่างน่ารัก พ้นน้ำจากงวงใส่ อยู่หลายที
สดชื่นกันไปแถมขี้ออกมาด้วย สงสัยที่ดื้อๆตอนเดินน่าจะปวดท้องนะป็อปปี้
สักพักพี่ควานช้างหายไปเว้ย เข้าป่าไปเลยไปไหนไม่รู้แฟนเริ่มกลัว ช้างก็มีโยกพ้นน้ำไปด้วยอยู่นาน
พี่ๆๆๆพอแล้ว 555 มาหาหน่อยๆๆ
มาแล้ว
ป๊อปปี้น่าจะคัน เอาตัวถูหินใหญ่
ขาเดินกลับแวะถ่ายรูปอีกหน่อย เป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกมมากครับการขี่ช้าง ใครมาแล้วมีเวลาแนะนำเลย ไม่ผิดหวัง
ออกจากปางช้างได้ปุ้บ ฟ้าเขียวมืดฝนก็ตกลงมากระหน่ำซัมเเมอร์เซล เดชะบุญจริงๆไม่ตกตอนขี้ช้างทางออกคงจะเละกว่าขาเข้าลำบากแน่ๆ แต่เอ๊ะ จะโชคดีจริงหรือ ถนนเส้นทางคดเขี้ยวขึ้นลงเขาแล้วฝนโคตรแรง ก็ค่อยๆขับกลับที่พัก แต่หิวแล้ว 4โมงกว่า เลยโทรบอกทีมงานว่าไปหาข้าวกินกันแถวหาดบางเบ้า ดีกว่าจะได้หาซื้อทัวร์ดำน้ำพรุ่งนนี้ด้วย จากที่พักไปบางเบ้าแค่ 3กิโลเองครับจิ้บๆ ขับมาฝนก็ยังแรงมากหนักกว่าเดิมเลยเจอร้าน ไม่ได้ถ่ายอีก อยู่ทางซ้ายขามา ก่อนถึงแยกเลี้ยวขวาไปท่าเรือหาดบางเบ้าครับ มีร้านใหญ่คนเยอะๆนั้นแหละมีที่จอดรถ จัดการเลย
อาหารราคาไม่แพงครับทั่วไป หมดนนี้ 780 บาท 4 คน กินกันไปฝนก็ไม่หยุดเป็น ชม. ก็ซาลงแล้วหยุดท้องฟ้าเปิดอีกครั้ง เช็คบิลไปต่อ
จากการสอบถามคนขายเขาว่าทัวร์ต้องรอดูว่าออกได้ไหมแต่ละวัน ฝนช่วงนนี้ยังปลายๆฝน เราไปกันเดือนตุลาคมครับ ก็เลยว่าพรุ่งนนี้ค่อยมาซื้อแต่เช้าทีเดียว ใกล้ๆ เลยเปลี่ยนไปร้านกาแฟแทนอยู่ในบางเบ้านี้แหละตรงขึ้นไปอีก ไม่ถึงโล
ร้านกาแฟ Rasta view สีสัสสไตล์ เร็กเก้ วิวสวยมองเห็นท่าเรือบางเบ้าที่เราจะไปดำน้ำกันพรุ่งนี้
วิวงามยามเย็น แสงเริ่มน้อย
ที่ว่าท่าเรือนั้นไม่ใช่สะพานยาวๆนนี้นะอันนี้น่าจะเป็นของรีสอท ท่าเรือจะที่เป็นมีหลังคาไกลๆนั้นแหละ
มาเกาะช้างรอบนนี้ไม่ค่อยเจอคนไทยเลยชาวต่างชาติเพียบ
สั่งมา 2 แก้วแก้วละ 45 บาท รสชาติทั่วไปกลางๆครับแต่บรรยากาศชิวดีมาก
ไม่มีแก้วกลับบ้านต้องกินจนหมดนะครับ
กลับมาถึง กำลังโพล่เพล้พอดีใกล้จะมืดแล้วเดินไปซื้อน้ำแข็งเครื่องดื่มปากซอยที่พักกลับมา
ว่าถึงที่พักกันบ้าง Elephant Bay Resort ที่จริงที่นี้เปิดนานแล้ว ชื่อเดิมคือ Gu's Bay Rules พึ่งปิดปรับปรุงเปลี่ยนเป็น Elephant Bay Resort พึ่งเปิดให้บริการใหม่เดือนตุลานี้เอง ก็เลยว่าสิ่งๆต่าง ค่อนข้างสภาพดี ในราคา 800 บาทห้องแอร์ ไปดูกันเลย
รูปมีจากช่วงที่มาเช็คอินตอนบ่ายด้วยให้ดูกันทีเดียวเลย มีสระมองเห็นทะเล วิวดีมาก
วันที่ไปมีแต่ฝรั่งครับ เจ้าของที่นี้ก็เป็นฝรั่งครับพูดไทยได้ นิ้ดหน้อย ผมก็สปีกอิงลิชได้ลิตเติ้ลๆ คุยกันพอรู้เรื่อง ตอนจองโทรมาก็งงเหมือนกัน ต้องใช้เมลล์คุยกันให้คนช่วยแปลช่วยพิมพ์ให้ 555
มาดูห้องกันบ้าง เป็นหลังๆแบบนี้แหละ โอเคเลยมีพื้นที่หน้าห้องนั่งกินนั้งเล่นกันได้
หน้าห้อง มีไม้เลื่อย
ุ
เข้ามาในห้อง ห้องไม่ใหม่มากสภาพเหมือนอยู่มานานแต่ได้รับการบูรณะใหม่ แต่ก็ยังคงความเก่านิดๆ 555 อันนี้แล้วแต่คนผมสไตล์กินง่ายนอนง่ายนอนเต็นอยู่แล้ว มาเจอห้องแอร์เลยไม่ค่อยซีเรียส เตียงนุ่มแอร์เย็น สะอาด ก็พอแล้วเรื่องความสวยงามไม่เน้นเท่าไหร่
ห้องน้ำแบบโอเพ้นแอร์ ที่คราบๆเหลืองๆนั้นเป็นคราบตะไคร้น้ำ ไม่ใช้คราบสกปรกอะไรจนน่าเกลียดนะครับ รูปมันออกมางั้นเอง
มาดูบรรยากาศรอบๆดีกว่าผมว่าจุดขายของที่นี้เลย
แสงไฟยามฟ้ามืด
แสงไฟยามค่ำคืนก็สวยงาม
บรรยากาศเงียบสงบ หน้าห้องเปิดกว้างเสียงไม่ดัง ประมาณ 4 ทุ่มก็แยกย้ายเตรียมลุยดำน้ำพรุ่งนนี้
จบคืนแรก